"บิ๊กตู่"คอนเฟิร์ม! ดึง "ซี.พี.-ไทยเบฟ-BTS" ลงทุนไฮสปีด"พัทยา-หัวหิน"



"บิ๊กตู่" เร่งเครื่องรถไฟฟ้าหลากสี ตัดริบบิ้นสายสีม่วง มี.ค.59 จี้ รฟม. เจรจา BMCL เดินรถสีน้ำเงินต่อขยาย เฟิร์มแล้วดึง "ซี.พี.-ไทยเบฟ-บีทีเอส" ลงทุนไฮสปีด "พัทยา-หัวหิน"

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเปิดเดินเครื่องหัวเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาอุโมงค์ที่สอง (Eastbound TBM Launching Ceremony) โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สัญญา 2 ช่วงสถานีสนามไชย-สถานีท่าพระว่า ขณะนี้งานก่อสร้างคืบหน้ากว่า 60% จะแล้วเสร็จเปิดใช้ได้ประมาณไตรมาสที่ 3 ปี 2561 ซึ่งได้เร่งรัดให้กระทรวงคมนาคมเร่งดำเนินการเรื่องการเดินรถให้เสร็จโดยเร็ว โดยให้ไปเจรจากับผู้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าใต้ดินสายเดิม คือ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เพื่อให้การเดินรถไฟฟ้าต่อเนื่อง ประชาชนจะได้มีความสะดวก หากข้อเสนอที่เอกชนเสนอมาไม่เป็นประโยชน์ ก็ให้เปิดประมูลใหม่

"ตอนนี้โครงการล่าช้ามากว่า 1 ปี ทำให้เลื่อนเปิดใช้จากเดิมปี 2560 เป็นปีปลายปี 2561 เพราะมีปัญหาสัญญาต่าง ๆ ผมก็อยากจะเร่งรัดให้มันเร็วขึ้น ผมก็บอกให้ทำทุกอย่างให้ถูกต้องและเร็วขึ้น ส่วนรถไฟฟ้าสายอื่น ๆ ก็ยังเป็นไปตามโรดแมปเดิม พยายามทำให้ครบทั้งหมด 10 เส้นทาง ตอนนี้มีรอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี 3 เส้นทาง คือ สีชมพู เหลือง และแดง ส่วนรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางซื่อ-บางใหญ่คาดว่าจะตัดริบบิ้นทันรัฐบาลชุดนี้ เปิดให้บริการเดือนมีนาคม 2559"

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงโครงการรถไฟไทย-จีนว่า ปัจจุบันยังเดินไปตามแผนงานและเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี ยังไม่เห็นมีปัญหาอะไร ซึ่งขณะนี้อยู่ขั้นตอนการต่อรองกันกับรัฐบาลจีนถึงเรื่องต่าง ๆ รวมทั้งการสำรวจเส้นทาง ออกแบบรายละเอียดและการร่วมทุน จะใช้รูปแบบไหน นำเงินจากที่ไหนมาก่อสร้าง

สำหรับรถไฟความเร็วสูง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จากที่มีแนวคิดจะให้เอกชนไทยที่มีศักยภาพมาร่วมลงทุนไปแล้วนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับเอกชนที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม ซี.พี. หรือเครือเจริญโภคภัณฑ์, บริษัท ไทยเบฟฯ และบริษัท บีทีเอสฯ โดยมี 2 เส้นทางที่จะเร่งดำเนินการให้ทันในรัฐบาลนี้ ได้แก่ กรุงเทพฯ-พัทยา และกรุงเทพฯ-หัวหิน

ซึ่งแนวคิดคือ ทางเอกชนจะไปกู้เงินก้อนใหญ่มาก่อสร้างให้ โดยอาจจะร่วมกันหลายบริษัทเป็นลักษณะโฮลดิ้ง อาจจะเป็นการกู้เงินจากต่างประเทศบ้าง ในประเทศบ้าง ก็แล้วแต่เอกชนจะดำเนินการ จากนั้นจะเข้ามาร่วมกับภาครัฐบาล และมาเจรจาว่าจะลงทุนในสัดส่วนเท่าไหร่ เช่น 70:30  หรือ 50:50 หรือรับสัมปทาน แบ่งปันผลประโยชน์ จะมาคุยในรายละเอียดกันต่อ

"เงินก่อสร้างเป็นแสนล้านบาท ไม่ใช่เงิน 5 บาท 10 บาท เขากำลังตัดสินใจกันอยู่ เพื่อหาข้อเสนอให้เหมาะสม ถ้าไม่เหมาะสม เขาก็ไม่ทำ ก็จบ ปีนี้จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน" นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำ



Cr.http://www.buildernews.in.th/page.php?a=10&n=141&cno=9987#sthash.e9jiGMRi.dpuf