เลือกซื้อ "เหล็กเต็ม"เพื่อความปลอดภัย



เลือกซื้อ 'เหล็กเต็ม' เพื่อความปลอดภัย 
อ้างอิงข้อมูลจากหนังสือพิมพ์เดลี่นิวส์ วันเสาร์ ที่ 01 ตุลาคม 2554  
หากจะพูดถึงเรื่อง “เหล็ก” ที่ใช้ในงานก่อสร้าง หลายคนอาจรู้จักแค่เพียง เหล็กเส้นกลม เหล็กข้ออ้อย เหล็กฉาก แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าเหล็กทั้งหลายยังมีการแบ่งเป็น “เหล็กเต็ม” กับ “เหล็กเบา” อีกด้วย 

เหล็กเต็ม หรือ เหล็กโรงใหญ่ หมายถึงเหล็กที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง และน้ำหนักของเหล็กได้มาตรฐาน มอก. แต่ เหล็กเบา หรือ เหล็กโรงเล็ก เป็นเหล็กที่ผลิตให้มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางและน้ำหนักต่ำกว่ามาตรฐาน มอก. มักเป็นเหล็กรีดซ้ำ (นำเศษเหล็กที่ใช้งานแล้ว หรือเศษเหล็กเสียสภาพมารีดใหม่อีกครั้ง)

ในตลาดเหล็กทั่วประเทศ เหล็กเบาจะมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 10-15% และจะมีราคาต่ำกว่าเหล็กเต็มประมาณ 40สตางค์ – 1 บาทต่อ 1 กิโลกรัม 
การเลือกซื้อเหล็กเบา มาใช้ในงานก่อสร้าง แม้จะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะมีราคาที่ถูกกว่าเหล็กเต็ม แต่ก็อาจก่อให้เกิดอันตราย เพราะขนาด ความยาว และน้ำหนักที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจไม่สามารถรับน้ำหนักตามที่แบบกำหนดไว้ได้ 
    
ลาภทวี เสนะวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “งานก่อสร้างโครงสร้างขนาดใหญ่ อาทิ งานคอนโดมิเนียม งานก่อสร้างรถไฟฟ้า โอกาสเจอเหล็กเบาน้อยมาก แต่งานก่อสร้างโครงสร้างเล็ก ๆ เช่น งานโรงจอดรถ หรืองานต่อเติมบ้าน  ระบบควบคุมไม่ดี มีโอกาสเจอเหล็กเบาสูงมาก เจ้าของบ้านเองมักไม่รู้ และไม่เข้าใจ ส่วนใหญ่มักยกหน้าที่เลือกซื้อเหล็กให้กับผู้รับเหมา ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของผู้ผลิตที่ต้องมีความรับผิดชอบ ผลิตเหล็กตามมาตรฐาน”

วิธีการตรวจสอบ “เหล็กเต็ม” สามารถทำได้โดย การนำเหล็กที่มีความยาว 1 เมตรมาชั่ง แล้วนำน้ำหนักที่ได้ไปเปรียบเทียบกับน้ำหนักต่ำสุดที่ยอมรับได้ตามมาตรฐาน บังคับ มอก. ถ้ามีน้ำหนักน้อยกว่าแสดงว่าเป็นเหล็กเบา ซึ่งไม่ควรนำมาใช้ก่อสร้าง

ถ้าไม่มีเครื่องมือตรวจวัด ชั่งน้ำหนัก การตรวจสอบที่ง่ายที่สุดคือการตรวจดูเส้นผ่าศูนย์กลาง เพราะเหล็กเบามักถูกรีดให้มีขนาดเล็กกว่ามาตรฐาน อย่างไรก็ตามเหล็กเต็มกับเหล็กเบาก็มักมีขนาดไม่ต่างกันมากนัก มองด้วยตาเปล่าอาจลำบาก

“ผู้บริโภคต้องยืนยันในหลักการที่จะใช้เหล็กเต็มที่ได้มาตรฐาน เพราะเหล็กเป็นโครงสร้างสำคัญของบ้าน  เจ้าของบ้านต้องบังคับให้ผู้รับเหมารู้ว่าเราใส่ใจเรื่องนี้ ผู้ผลิตเองก็ต้องแสดงความรับผิดชอบ อย่างทาทาสตีลเองก็จะตีตราทาทาทิสคอนลงบนเหล็กทุกเส้น เพื่อแสดงให้ผู้บริโภคเห็นว่าใครเป็นผู้ผลิต” ลาภทวี เสนะวงษ์ กล่าวสรุป
สำหรับลักษณะเหล็กเต็มที่ดี มีคุณภาพ ทาทาสตีลแนะนำให้พิจารณาจากคุณสมบัติ 5 ประการ 1. ต้องมียี่ห้อ ขนาดระบุบนเหล็กเส้น 2. ผิวเหล็กกลมต้องเรียบเกลี้ยงไม่เบี้ยว ไม่มีรอยปริแตก ส่วนเหล็กข้ออ้อยต้องมีบั้งระยะเท่ากัน สม่ำเสมอตลอดเส้น 3. เส้นผ่าศูนย์กลางและน้ำหนักต้องถูกต้องตามมาตรฐาน 4. เมื่อดัดโค้ง งอ ต้องไม่ปริแตก หัก ง่าย 5. เหล็กต้องไม่เป็นสนิมขุมกินเข้าไปใน     เนื้อเหล็ก.

article@dailynews.co.th